บ้านขนมปังขิง
เราก็จะพาคุณมารู้จักกับอีกหนึ่งร้านกาแฟที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ในแบบที่คาเฟ่ไหน ๆ ก็ทำไม่ได้ เพราะว่านอกจากในเรื่องของคอนเซ็ปต์ของคาเฟ่แบบไทย ๆ แล้วก็ยังมีเรื่องสถาปัตยกรรม ที่ได้บ้านเก่าทรงโบราณแบบที่ไม่ได้จำเจอย่างบ้านเรือนไทยในแบบอื่น ๆ และมีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ซึ่งต้องบอกเลยว่านี้คือ Rare Cafe จริงๆ ไม่ได้มีดาษดื่น และร้านที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้นั่นก็คือ “บ้านขนมปังขิง” นั่นเอง ที่นี่จะมีความพิเศษยังไงกันบ้างนั้นเรามาดูกันต่อได้เลย
บรรยากาศภายในร้าน
หากคุณเป็นอีกคนนึงที่ชื่นชอบในเรื่องสถาปัตยกรรม ต้องตกหลุมรักบ้านขนมปังขิงแห่งนี้อย่างแน่นอน เพราะที่นี่เป็นบ้านไม้เก่าอายุกว่าร้อยปี ที่ยังคงความเป็นดั้งเดิมเอาไว้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าที่นี่เป็นบ้านไม้เรือนไทยที่แอบแฝงสถาปัตยกรรมและแนวการสร้างที่เป็นตะวันตก เข้ามาไว้ด้วยกัน หากคุณรู้จัก Ginger Bread หรือขนมปังขิงที่ชาวตะวันตกนิยมทานกันในช่วงคริสต์มาส และนำมาประกอบเป็นบ้านแล้ว บ้านเรือนไทยหลังนี้ก็ใช้แนวคิดคล้าย ๆกัน โดยที่นี่จะมีการตกแต่งอย่างงดงาม ให้ความรู้สึกถึงความรุ่งเรืองในยุคก่อน รวมกับความหรูหราแบบสมัยนิยมมากๆเลยทีเดียว
เมนูน่าลอง
แน่นอนว่าเรามาคาเฟ่ในบรรยากาศที่เป็นบ้านเรือนไทยแบบนี้ เมนูที่เสิร์ฟก็จะต้องมีความเป็นไทยผสมผสานอยู่ด้วยอย่างแน่นอน และเมนูที่เราจะพาคุณมารู้จักเป็นเมนูแรกเลยนั่นก็คือ “ไอศกรีมชาไทย” ที่มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของชาไทย ความหวานนุ่มละมุนลิ้น เย็นชื่นใจ ยิ่งได้ด้านกับเครื่องเคียงอย่างเฉาก๊วยที่ใส่มาให้ด้วยนั้นก็เพิ่มความหนุบมันในการเคี้ยวมากขึ้นไปอีก
และยังไม่หมดกับเมนูไอศกรีม เพราะเมืองร้อนอย่างบ้านเราก็ต้องทานอะไรเย็นๆดับร้อนกันใช่ไหม ที่นี่มี “ไอศกรีมบัวลอย” ที่เสิร์ฟมาได้อย่างหรูหราสวยงาม บัวลอยสีสดใส ทานคู่กับไอศกรีมกะทิบอกได้เลยว่าหอมมะพร้าวและหวานมันอร่อยมากจริงๆเลยค่ะ
สำหรับใครที่เดินทางมากันหลายคนเราก็ขอแนะนำเมนูแบบเซตให้มาแบ่งกันชิม แบ่งกันทานได้เลย “ชุดคุณหลวง” ที่เล่นใหญ่จัดเต็มราวกับว่าเป็นปาร์ตี้น้ำชาขนาด 5-6 คนแบบไทย ๆ ยังไงยังงั้น การจัดวางขนม และของหวานนั้นสวยงามน่าทาน มีทั้งขนมไทย และเค้ก รวมถึงเครื่องดื่มเย็นๆแสนอร่อยอีกด้วยนะคะ
มุมสวย
หากใครที่ได้เดินทางที่บ้านขนมขิงแห่งนี้แล้วก็ต้องห้ามพลาดที่จะเดินชมซอกมุมต่างๆของบ้านหลังนี้กันนะคะ เพราะถ้าจะพูดกันแล้วที่นี่ก็คล้ายว่าจะเป็นคาเฟ่กึ่งพิพิธภัณฑ์ด้วยเช่นกัน และความสวยงามของที่นี่นั่นต้องบอกเลยว่าทุกตารางนิ้วจริง ๆ ค่ะ
ที่ตั้ง : 47 แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพฯ
หมายเลขโทรศัพท์ : 097 229 7021
เวลาเปิดให้บริการ : วันจันทร์-วันศุกร์ เปิดบริการเวลา 11.00-20.00 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ เปิดบริการเวลา 09.00-20.00 น.